วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การบ้านวันที่ 18-24 มิ.ย. 2555


การบ้านวันที่ 18-24 มิ.ย. 2555

1.ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ     พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2545 ได้ระบุไว้ในหมวด ที่ 9  ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ
1. สื่อโสตทัศน์                            2. สื่อมวลชน
3. สื่ออิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม รวมทั้งคอมพิวเตอร์
4. สื่อที่เป็นแหล่งวิทยาการ เช่น ห้องสมุด


2. ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงหาภาพมาประกอบ
ตอบ       สื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปนั้น มีอยู่ทั้งหมด  4 ประเภท คือ
1. สื่อไม่ใช้เครื่องฉาย
สิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น หนังสือ  ตำราเรียน  คู่มือฯ  

      

                     
                        • ของจริงของตัวอย่าง

      


                     • ของจำลองหุ่นจำลองขนาดเท่าหรือขยายเท่าของจริง


 


                    • วัสดุกราฟิก เช่น แผนภาพ แผนภูมิโปสเตอร์ ภาพถ่ายภาพเขียน การ์ตูน

                   • กระดานดำ กระดานขาว

         
                   • กระดานแม่เหล็กกระดานผ้าสำลี



                    การศึกษานอกสถานที่



2. สื่อที่ใช้เครื่องฉาย
เครื่องฉายทึบแสง


สไลด์

วีดิทัศน์

3. สื่อที่ใช้เครื่องเสียง
วิทยุ


เทปบันทึกเสียง

                    • แผ่นซีดี

4. สื่อเชิงโต้ตอบ
คอมพิวเตอร์

  
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน



                    • อินเตอร์เน็ต




การสอนใช้เว็บเป็นฐานการสอนบนเว็บ





3.ประเภทของเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามประสบการณ์เป็นของนักการศึกษาท่านใด และมีการจัดประสบการณ์จากนามธรรมไปสู่รูปธรรมโดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ใดไปประสบการณ์ใดจงอธิบาย
ตอบ       เอดการ์ เดล (Edgar Dale) ได้จัดแบ่งสื่อการสอนเพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างโสตทัศนูปกรณ์ และแสดงเป็นขั้นตอนของประสบการณ์การเรียนรู้และการใช้สื่อ นำมาสร้างเป็น กรวยประสบการณ์”  (Cone of Experience ) แบ่งเป็นขั้นตอนดังนี
          1. ประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นขั้นที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด เพราะผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากของจริง สถานที่จริง
          2. ประสบการณ์รอง ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงกับความจริงที่สุด
          3.ประสบการณ์นาฏกรรมหรือการแสดง เป็นการแสดงบทบาทสมมติ หรือการแสดงละคร
         4. การสาธิต เป็นการแสดงหรือกระทำประกอบคำอธิบาย
         5. การศึกษานอกสถานที่ ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ภายนอกที่เรียน
         6. นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ การจัดป้ายนิเทศ
          7.โทรทัศน์ ใช่ส่งได้ทั้งระบบวงจรเปิดหรือวงจรปิด การสอนจะเป็นการสอนสดหรือบันทึกลงบนวีดิทัศน์
          8. ภาพยนตร์ เป็นภาพที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ลงบนฟิล์ม
          9. การบันทึกเสียง วิทยุ ภาพนิ่ง เป็นการฟังหรือดูภาพโดยไม่ต้องอ่าน
          10. ทัศนะสัญลักษณ์ เช่น แผนภูมิ แผนที่ แผนสถิติ
          11. วจนะสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นขั้นนามธรรมมากที่สุด ได้แก่ ตัวหนังสือ เสียงพูด



4.การสื่อสารหมายถึงอะไร
ตอบ       คำว่า  การสื่อสาร (communications)  มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาลาตินว่า  communis หมายถึง  ความเหมือนกันหรือร่วมกัน   การสื่อสาร (communication)    หมายถึงกระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร  ข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์  ความรู้สึก ความคิดเห็น ความต้องการจากผู้ส่งสารโดยผ่านสื่อต่าง ๆ ที่อาจเป็นการพูด การเขียน สัญลักษณ์อื่นใด การแสดงหรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไปยังผู้รับสาร ซึ่งอาจจะใช้กระบวนการสื่อสารที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม หรือความจำเป็นของตนเองและคู่สื่อสาร  โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกิดการรับรู้ร่วมกันและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกัน  บริบททางการสื่อสารที่เหมาะสมเป็น ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การสื่อสารสัมฤทธิ์ผล


5.สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในองค์ประกอบใด จงอธิบาย
ตอบ  เป็นสื่อและช่องทางเพราะเป็นสื่อกลางที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน เช่นสิ่งพิมพ์ กราฟิก สื่ออิเล็กทรอนิกส์



6.จงเขียนแบบจำลองของการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล มาพอเข้าใจ
ตอบ  

เดวิด เค เบอร์โล (David K. Berlo) เสนอแบบจำลองการสื่อสารไว้    เมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยอธิบายว่า การสื่อสารประกอบด้วยส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการ คือ
            1. ต้นแหล่งสาร (communication source)
2. ผู้เข้ารหัส (encoder)
3. สาร (message)
4. ช่องทาง (channel)
5. ผู้ถอดรหัส (decoder)
6. ผู้รับสาร (communication receiver)
จากส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการนั้น เบอร์โล ได้นำเสนอเป็นแบบจำลองการสื่อสารที่รู้จักกันดีโดยทั่วไปว่า "แบบจำลอง SMCR ของเบอร์โล"(Berlo's SMCR Model)โดยเบอร์โลได้รวมต้นแหล่งสารกับผู้เข้ารหัสไว้ในฐานะต้นแหล่งสารหรือผู้ส่งสาร และรวมผู้ถอดรหัสกับผู้รับสารไว้ในฐานะผู้รับสาร แบบจำลองการสื่อสารตามแนวคิดของเบอร์โลนี้ จึงประกอบไปด้วย S (Source or Sender) คือ ผู้ส่งสาร M (Message) คือ สาร C (Channel) คือ ช่องทางการสื่อสาร R (Receiver) คือ ผู้รับสาร


7.อุปสรรคของการสื่อสารมีอะไรบ้าง
ตอบ       อุปสรรคในการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่ทำให้การสื่อสารไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ ของผู้สื่อสาร และผู้รับสาร   อุปสรรคในการสื่อสารอาจเกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการสื่อสาร ดังนั้นอุปสรรค ในการสื่อสารจากองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้
อุปสรรคที่เกิดจากผู้ส่งสาร
                                1.1  ผู้ส่งสารขาดความรู้ความเข้าใจและข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ต้องการจะสื่อ
                                1.2  ผู้ส่งสารใช้วิธีการถ่ายทอดและการนำเสนอที่ไม่เหมาะสม
                                1.3  ผู้ส่งสารไม่มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี และไม่เหมาะสม
                                1.4  ผู้ส่งสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการส่งสาร
                                1.5  ผู้ส่งสารขาดความพร้อมในการส่งสาร
                                1.6  ผู้ส่งสารมีความบกพร่องในการวิเคราะห์ผู้รับสาร
อุปสรรคที่เกิดจากสาร
                                2.1  สารไม่เหมาะสมกับผู้รับสาร อาจยากหรือง่ายเกินไป
2.2  สารขาดการจัดลำดับที่ดี สลับซับซ้อน ขาดความชัดเจน
                                2.3  สารมีรูปแบบแปลกใหม่ยากต่อความเข้าใจ
                                2.4  สารที่ใช้ภาษาคลุมเครือ ขาดความชัดเจน
อุปสรรคที่เกิดจากสื่อหรือช่องทาง
3.1  การใช้สื่อไม่เหมาะสมกับสารที่ต้องการนำเสนอ
3.2  การใช้สื่อที่ไม่มีประสิทธิภาพที่ดี
3.3  การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมกับระดับของการสื่อสาร
อุปสรรคที่เกิดจากผู้รับสาร
4.1  ขาดความรู้ในสารที่จะรับ
                                4.2  ขาดความพร้อมที่จะรับสาร
                                4.3  ผู้รับสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ส่งสาร
                                4.4  ผู้รับสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสาร
                                4.5  ผู้รับสารมีความคาดหวังในการสื่อสารสูงเกินไป



8.บทเรียน  e-Learning  เป็นส่วนใดขององค์ประกอบของการสื่อสาร
ตอบ  เป็นผู้ส่ง   ผู้รับ   สื่อกลาง   และข้อมูลข่าวสารสนเทศ


9.ครูบอยกำลังสอนเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษเรื่อง Grammar ด้วยวีดิทัศน์กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 จากข้อความดังกล่าวให้นิสิตเขียนแบบจำลองการสื่อสารของเดวิด เบอร์โล
ตอบ 


10.การปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ณ หอประชุมธำรงบัวศรี เป็นการสื่อสารประเภทใด
ตอบ  การสื่อสารแบบกลุ่มใหญ่ (Large group Communication)





เเหล่งอ้างอิง : http://www.baanjomyut.com/library/communication_theory/03_2.html

                      http://e-book.ram.edu/e-book/m/mc111/mc111_03_04.html


วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตัวอย่างอุปกรณ์เทคโนโลยีการศึกษา

ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer)


          
       คือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแบบขนาดตั้งโต๊ะ (desktop computer) หรือขนาดเล็กกว่านั้น อาทิเช่น ขนาดสมุดบันทึก (notebook computer) และขนาดฝ่ามือ (palmtop computer) ไมโครคอมพิวเตอร์ได้เริ่มมีขึ้นในปีพ.ศ. 2518 ถึงแม้ว่าในระยะหลัง เครื่องชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพที่สูง แต่เนื่องจากมีราคาไม่แพงและมีขนาดกระทัดรัด ไมโครคอมพิวเตอร์จึงยังเหมาะสำหรับใช้ส่วนตัว ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ถูกออกแบบสำหรับใช้ที่บ้าน โรงเรียน และสำนักงานสำหรับที่บ้าน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการทำงบประมาณรายรับรายจ่ายของครอบครัวช่วยทำการบ้านของลูกๆ การค้นคว้าข้อมูลและข่าวสาร การสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail หรือ E - mail) หรือโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต (internet phone) ในการติดต่อทั้งในและนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งทางบันเทิง เช่น การเล่นเกมบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ สำหรับที่โรงเรียน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยสอนนักเรียนในการค้นคว้าข้อมูลจากทั่วโลกสำหรับที่สำนักงาน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยพิมพ์จดหมายและข้อมูลอื่นๆ เก็บและค้นข้อมูล วิเคราะห์และทำนายยอดซื้อขายล่วงหน้า


สมาร์ทโฟน(Smart Phone)


       คือ โทรศัพท์ที่ รองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่ยกเอาคุณสมบัติที่ PDA และคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมมาไว้ในโทรศัพท์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโทรศัพท์มือถือของคุณให้สามารถ ฟังเพลง ดูหนัง เพิ่มโปรแกรมต่างๆลงไปได้ มีระบบปฏิบัติการณ์รองรับ ระบบปฏิบัติการ หรือ OS (Operating System) เป็นระบบที่ช่วยให้การทำงานของโทรศัพท์มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับระบบปฏิบัติการที่เป็นที่นิยมใช้งานบน Smart Phone ได้แก่ Symbian OS, Windows Mobile, Palm OS หรือแม้กระทั่ง Linux OS

เเท๊บเล็ต (Tablet PC)




       Tablet PC เป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลพกพาแบบไร้สายที่มีอินเตอร์เฟซแบบจอสัมผัส (touch screen) ตามปกติ แฟคเตอร์รูปแบบ (form factor) ของ tablet เล็กกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ notebook แต่ใหญ่กว่า smart phone 



ความคาดหวังต่อการเรียนรายวิชาเทคโนโลยีการศึกษา



ความคาดหวังต่อการเรียนรายวิชา 400202 เทคโนโลยีการศึกษา คือ

  1. ในโลกยุคปัจจุบันนั้น เทคโนโลยีต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์เรามากยิ่งขึ้น ทำให้เราจำเป็นที่จะต้องปรับตัวเพื่ิอให้ก้าวทันกับโลกยุคปัจจุบันเสมอ
  2. รู้จักการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน มาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม เเละหลากหลาย
  3. รู้จักการนำเอาเทคโนโลยีการศึกษานั้น มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาได้อย่างสูงสุด
  4. รู้จักการนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาตนเองตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ตามทันในเทคโนโลยีต่างๆ
  5. รู้จักการนำเอาความรู้ ความสามารถมาพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้ืน

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ที่มาเเละความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา



ที่มาของเทคโนโลยีการศึกษา
       1. แนวคิดด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ หมายถึง การประยุกต์วิทยาศาสตร์กายภาพในรูปของสิ่งประดิษฐ์เช่น เครื่องฉาย เครื่องเสียง วิทยุวิทยุโทรทัศน์เครื่องคอมพิวเตอร์ ฯลฯ มาใช้สำหรับการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นส่วนใหญ่ การใช้เครื่องมือเหล่านี้มักคำนึงถึงเฉพาะการควบคุมให้เครื่องทำงาน มักไม่คำนึงถึงจิตวิทยาการเรียนรู้ ที่เกี่ยวข้อง ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษาตามความคิดรวบยอดนี้ ทำให้บทบาทของเทคโนโลยีการศึกษาแคบลงไป คือ มีเพียงวัสดุและอุปกรณ์เท่านั้น ไม่รวมวิธีการหรือปฏิกิริยาสัมพันธ์อื่นๆเข้าไปด้วย ซึ่งตามความหมายนี้ก็คือ “โสตทัศนศึกษา” นั่นเอง
       2. แนวคิดด้านพฤติกรรมศาสตร์เป็นการนำแนวคิดและวิธีการทางจิตวิทยา มานุษยวิทยากระบวน การกลุ่ม ภาษา การสื่อความหมาย การบริหาร กลไกการรับรู้มาใช้ควบคู่กับผลิตผลทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม เพื่อให้ผู้เรียนเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมิใช่เพียงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์เท่านั้น แต่รวมถึงวิธีการทางวิทยาศาสตร์และวิธีการทางพฤติกรรมศาสตร์เข้าไปด้วย มิใช่วัสดุหรืออุปกรณ์แต่เพียงอย่างเดียว ปัจจุบันพัฒนาการการจัดการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากเดิมที่ ครู-อาจารย์เป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียนด้วยวิธีการบรรยาย การทำให้ดู (สาธิต, การแสดง ฯลฯ)และผู้เรียนต้องทำหรือปฏิบัติตาม ด้วยคัมภีร์ ตำรา หนังสือเอกสาร กระดานชอล์ก ซึ่งเป็นวิธีการที่ซ้ำซากจำเจเรื่อยมา จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงบทบาทผู้สอน มาเป็นผู้กระตุ้นส่งเสริมให้ผู้เรียนดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นรายบุคคลหรือกลุ่ม ตลอดจนการจัดระบบการเรียนการสอน โดยอาศัยสื่อโสตทัศนวัสดุ (Audio Visual Material) เป็นตัวกลางที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลการเรียนรู้ ทั้งทางด้าน การพัฒนาความรู้ ความคิด ทักษะและทัศนคติที่ดีต่อการเรียน บนพื้นฐานของจิตวิทยาการเรียนรู้



ความหมายของเทคโนโลยีทางการศึกษามีอยู่หลายทัศนะ ดังต่อไปนี้
  • ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน ให้ความหมายว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนำวิธีการ มาปรับปรุงประสิทธิภาพของการศึกษาให้สูงขึ้น โดยครอบคลุมองค์ประกอบ 3 ประการ คือ วัสดุ อุปกรณ์หรือเครื่องมือ วิธีการ
  • ดร. เปรื่อง กุมุท ได้กล่าวถึงทางการศึกษา ไม่ใช่เครื่องมือ แต่เป็นแผนการหรือวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ ให้บรรลุผลตามแผนการ
  • Edgar Dale กล่าวว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา ไม่ใช่เครื่องมือ แต่เป็นแผนการหรือวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ ให้บรรลุตามแผนการ
  • ครรซิต มาลัยวงษ์ กล่าวว่า "การใช้เทคโนโลยีสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการศึกษา ก็คงจะเรียกว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา ส่วนผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจและอุตสาหกรรม อาจเรียกว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมองว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการใช้เทคโนโลยีลักษณะเดียวกัน แต่มีจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน"

        Technology of education หมายถึง เป็นการนำเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ อักทั้งวัสดุ และวิธีการมาผสมผสานกัน เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
       สาขาวิชานี้ได้กล่าวถึงการนำเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งบรรดาวัสดุ และวิธีการมาผสมผสานกัน เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น




ที่มา : student.nu.ac.th/fon/tecnomean.htm